เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ADVANC เจ้าของเครือข่าย AIS ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่าจะยังไม่ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น TTTBB และหน่วยลงทุน JASIF โดยจะมีการพิจารณาดีลใหม่อีกครั้ง

เกิดอะไรขึ้นกับดีลครั้งนี้ แล้ว ADVANC จะเดินหน้าทำดีลต่อหรือไม่ ?
วันนี้ทาง BillionMoney ได้รับเกียรติจากคุณวสุ มัทนพจนารถ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่จะมาวิเคราะห์ให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ

โดยตัวละครสำคัญกับดีลนี้ มีทั้งหมด 4 บริษัท คือ

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC
บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS
บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB เป็นบริษัทลูกของ JAS เจ้าของ 3BB
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เป็นผู้ปล่อยเช่าโครงข่ายไฟเบอร์ให้กับ 3BB

โดยก่อนหน้านี้ทาง ADVANC ประกาศว่าจะเข้าซื้อ 3BB เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน แต่มีเงื่อนไขว่า JASIF ต้องลดราคาค่าเช่าโครงข่ายไฟเบอร์ลงด้วย

แล้วทำไม ADVANC ถึงต้องการซื้อ 3BB ?

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านของ ADVANC เติบโตในระดับที่ค่อนข้างสูง
แม้ว่าอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตบ้านในไทยจะอิ่มตัวแล้ว
แต่ ADVANC ใช้กลยุทธ์การตัดราคา จึงสามารถดึงฐานลูกค้าจากคู่แข่งมาได้

ถ้าเราลองมาดูผู้เล่นของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน จะพบว่า

อันดับ 1 คือ TRUE มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 38%
อันดับ 2 คือ 3BB มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 19%
อันดับ 3 คือ ADVANC มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 15.6%

จะเห็นได้ว่า ถ้า ADVANC รวมกับ 3BB ก็จะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ทันที ภายในระยะเวลาสั้น ๆ
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ADVANC จึงต้องการที่จะซื้อกิจการของ 3BB ที่เป็นคู่แข่งของตัวเอง

ซึ่ง ADVANC ก็เสนอซื้อ 3BB ในสัดส่วน 100% เต็ม
และขอซื้อหุ้น JASIF อีก 19% จาก JAS ด้วยมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด 32,000 ล้านบาท

ปัญหาก็คือ ผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF มีการลงมติกันว่า
ไม่อนุมัติให้ JASIF ลดค่าเช่าโครงข่ายที่ 3BB เป็นผู้เช่าลง 31% ตามข้อเรียกร้องของ ADVANC

แม้ว่า ADVANC จะเสนอยืดอายุการเช่าออกไปอีก 6 ปี จากเดิมที่จะหมดสัญญาเช่าในเดือนมกราคม ปี 2575 เป็นหมดอายุในเดือนธันวาคม ปี 2580

นอกจากนี้ ADVANC ยังมีการเสนอจ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้า 3 ปีแรก จำนวน 3 พันล้านบาท
เพื่อจูงใจให้นักลงทุนรับข้อเสนออีกด้วย

ซึ่งหลักเกณฑ์การรับข้อเสนอ จะมีการตัดสิทธิ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับดีลครั้งนี้ออกไป
นั่นก็คือ JAS ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ JASIF ในสัดส่วน 19% และเป็นเจ้าของ 3BB ด้วย

ดังนั้นจึงเหลือผู้มีสิทธิ์โหวตแค่ 81% โดยในจำนวนนี้ต้องอาศัยผลลงมติรับข้อเสนอ 75% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิ์ลงมติ ข้อเสนอจึงจะผ่านไปได้

แต่ผลปรากฏว่า มีผู้ลงมติเห็นด้วยเพียง 69% เท่านั้น สาเหตุก็น่าจะเป็นเพราะผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF บางราย ให้ความสำคัญกับอัตราค่าเช่ามากกว่าระยะเวลาที่ถูกยืดขยายออกไป

เมื่อ ADVANC รู้ผลการลงมติดังกล่าว จึงตัดสินใจว่าจะต้องมีการทบทวนดูว่า จะเดินหน้าทำดีลต่อไปหรือไม่

เรื่องนี้คุณวสุมองว่า ดีลจะไม่ล่ม เพราะ ADVANC มีความตั้งใจที่จะเป็นผู้นำตลาด ในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน
และในอดีตทั้ง JAS และ ADVANC ก็มีการเจรจาดีลนี้กันมาก่อนแล้ว

แต่ที่ยังไม่เกิดดีลสักที ก็คงเป็นเพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ADVANC ในสมัยก่อนอย่าง Singtel มองว่าราคาที่ JAS เสนอนั้น แพงเกินไป

แต่ GULF ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบัน มีแผนที่จะเข้ามาเป็นผู้นำในธุรกิจโทรคมนาคมอยู่แล้ว ดังนั้นก็อาจจะยอมจ่ายมากกว่า Singtel

ซึ่งหาก ADVANC ตัดสินใจยกเลิกดีลซื้อ 3BB ก็ต้องกลับไปทำสงครามราคาเหมือนเดิม และก็ไม่มีอะไรมาการันตีว่าจะต้องใช้เวลาอีกกี่ปี กว่า ADVANC จะสามารถแย่งฐานลูกค้าได้เท่ากับการเข้าซื้อคู่แข่งอย่าง 3BB ไปเลย

อย่างไรก็ตาม หาก ADVANC ยอมรับดีล โดยที่ค่าเช่าไม่ลดลง
ดีลนี้ก็จะกระทบกับกำไรของ ADVANC ประมาณ 4% ซึ่งก็ไม่ได้เยอะเท่าไร

และถึงแม้ว่าจะลดค่าเช่าไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือสัญญาเช่าโครงข่าย ที่สั้นลงกว่าข้อเสนอที่ยื่นไป
ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ ADVANC สร้างสายไฟเบอร์ใช้เอง และใช้สายไฟเบอร์ที่ตัวเองมีอยู่แล้วบางส่วนที่ทับซ้อนกับพื้นที่ของ JAS หลังหมดอายุสัญญาเช่า

โดยก่อนหน้านี้ผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF ก็ได้ลงมติรับข้อเสนอที่จะยกเลิกข้อบังคับที่ JASIF ใช้กับ 3BB และ JAS ที่ห้ามวางโครงข่ายไฟเบอร์ทับซ้อนกับ JASIF

พูดง่าย ๆ ก็คือ ADVANC สามารถวางโครงข่ายของตัวเอง เพื่อเตรียมไว้ใช้เองในอนาคตได้เลย
เมื่อสัญญาเช่าหมดอายุในเดือนมกราคม ปี 2575 ADVANC ก็ไม่จำเป็นต้องง้อ JASIF อีกต่อไป

หลายคนอาจจะมีคำถามว่า ทำไม ADVANC ต้องลงทุนสร้างเอง ในเมื่อ JASIF มีโครงข่ายให้เช่าอยู่แล้ว

ก็ต้องบอกว่า ค่าเช่าเดิมที่ 3BB จ่ายให้ JASIF เป็นค่าเช่าที่สูงมาก ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี
ขณะที่งบลงทุนในการสร้างโครงข่าย มีมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท

สาเหตุที่ 3BB จ่ายค่าเช่าให้ JASIF สูง ก็ต้องย้อนกลับไปในสมัยที่ JAS ต้องการขายโครงข่ายไฟเบอร์ให้ JASIF บริษัทต้องการขายในราคาที่สูง เพื่อนำเงินไปชำระหนี้

เมื่อเราอยากขายสินทรัพย์ในราคาสูง เราก็ต้องการันตีว่าสินทรัพย์นั้น จะให้ผลตอบแทนสูง
ซึ่งก็คือ “ค่าเช่า” นั่นเอง

หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง แล้วจะมีประเด็นเรื่องการแข่งขันที่น้อยลง จน กสทช. ออกมาขวางดีลไหม ?

ในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตบ้าน เริ่มแรกเดิมที มีผู้เล่น 4 ราย
ถ้า ADVANC กับ 3BB รวมกัน ก็ยังเป็นแค่ผู้เล่นอันดับ 2

ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ ADVANC
แม้จะบอกว่าขอทบทวนดูใหม่ แต่สุดท้ายก็ยังคงจะเดินหน้าเข้าซื้อ 3BB ต่อไป..

หมายเหตุ: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

หากใครสนใจ สามารถรับชมการสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่: https://fb.watch/ghYmmd_7QU/

5 อันดับ มหาเศรษฐี ที่รวยที่สุด ในจีน

Luckin Coffee จากธุรกิจล้มละลาย สู่ร้านกาแฟ สาขามากกว่า Starbucks ในจีน

สรุปเนื้อหา รายการ Billion Insight แบบง่าย ๆ ทำไม AIS อาจล้มดีลซื้อ 3BB ?

ไนจีเรีย ผู้ผลิตภาพยนตร์มากสุด อันดับ 2 ของโลก

7 นักฟุตบอล ที่รวยที่สุด ในฟุตบอลโลกครั้งนี้

มหาเศรษฐี Elon Musk เป็นเจ้าของธุรกิจ อะไรบ้าง ?

Binance เทขายเหรียญ FTT หวั่นซ้ำรอย LUNA

รู้จัก บริษัทเปลือกหอย ที่เป็นมากกว่ากลไกเลี่ยงภาษี

Sony ย้ายฐานการผลิตกล้อง จากจีน มายังประเทศไทย แล้ว