
รู้จัก วิธีการลงทุน แบบ Jack Bogle บิดาแห่งกองทุนดัชนี
6 ธ.ค. 2022
“ถ้าจะสร้างรูปปั้นเพื่อเป็นเกียรติ ให้แก่ใครสักคน ที่สร้างคุณูปการแก่นักลงทุนชาวอเมริกันมากที่สุด รูปปั้นของคนนั้น ควรจะเป็น Jack Bogle”
นี่คือคำกล่าวของคุณ Warren Buffett นักลงทุนระดับตำนาน ที่กล่าวไว้ในงานประชุมผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ในปี 2017
แล้วคุณ Jack Bogle หรือ John C. Bogle คนนี้คือใคร ?
คุณ Bogle ก็คือผู้ก่อตั้ง Vanguard Group
บริษัทที่สร้างกองทุนอิงดัชนีกองแรกในโลกขึ้นมา
ซึ่งก็คือ Vanguard 500 Index Fund
ที่ลงทุนในดัชนี S&P 500 ของประเทศสหรัฐอเมริกา
บริษัทที่สร้างกองทุนอิงดัชนีกองแรกในโลกขึ้นมา
ซึ่งก็คือ Vanguard 500 Index Fund
ที่ลงทุนในดัชนี S&P 500 ของประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยคุณ Bogle นับว่าเป็นนักลงทุนสายกองทุนอิงดัชนี
ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่กลยุทธ์ที่คุณ Bogle ใช้ในการลงทุน กลับเรียบง่าย ชนิดที่ใคร ๆ ก็สามารถทำตามได้
ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่กลยุทธ์ที่คุณ Bogle ใช้ในการลงทุน กลับเรียบง่าย ชนิดที่ใคร ๆ ก็สามารถทำตามได้
แล้วสูตรการลงทุนของคุณ Jack Bogle เป็นอย่างไร
BillionMoney จะมาย่อยให้ฟัง แบบง่าย ๆ
BillionMoney จะมาย่อยให้ฟัง แบบง่าย ๆ
สูตรของคุณ Bogle ก็คือ ให้ลงทุนในกองทุนอิงดัชนีแค่ 2 แบบเท่านั้น แบ่งเป็นการลงทุนใน
-กองทุนอิงดัชนีหุ้น
-กองทุนอิงดัชนีหุ้นกู้
โดยกองทุนที่คุณ Bogle แนะนำว่าให้ลงทุน ก็คือ
-Vanguard Total Stock Market Index (VTI)
กองทุนอิงดัชนีหุ้น ซึ่งลงทุนในหุ้นทุกตัวของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมานั้น
VTI ให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยที่ 9.79% ต่อปี
VTI ให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยที่ 9.79% ต่อปี
-Vanguard Total Bond Market Index (BND)
กองทุนอิงดัชนีหุ้นกู้ชั้นดี ของประเทศสหรัฐอเมริกา
โดย BND ให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยที่ 4.32% ต่อปี ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
โดย BND ให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยที่ 4.32% ต่อปี ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ทั้ง 2 กองทุนยังมีจุดเด่นเรื่องอัตราค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก ที่ 0.03% ต่อปีเท่านั้น
ทั้งนี้ วิธีการจัดพอร์ตลงทุนของคุณ Bogle คือให้
-ลงทุนในกองทุนอิงดัชนีหุ้น ในสัดส่วนเดียวกันกับผลลบของ 100 กับอายุของเรา
-ลงทุนในกองทุนอิงดัชนีหุ้น ในสัดส่วนเดียวกันกับผลลบของ 100 กับอายุของเรา
-ลงทุนในกองทุนอิงดัชนีหุ้นกู้ ในสัดส่วนเดียวกันกับอายุของเรา
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าเราอายุ 25 ปี ก็ให้เราลงทุนใน VTI เป็นเงิน 75% ของเงินลงทุนทั้งหมด และอีก 25% ก็ให้ลงทุนใน BND
ถ้าเราอายุ 25 ปี ก็ให้เราลงทุนใน VTI เป็นเงิน 75% ของเงินลงทุนทั้งหมด และอีก 25% ก็ให้ลงทุนใน BND
และปีต่อมา เมื่อเราอายุ 26 ปี ก็ให้ปรับพอร์ตเป็น ลงทุนใน VTI 74% และ BND 26%
โดยหลักการของกลยุทธ์นี้ก็คือ
การลงทุนในกองทุนอิงดัชนีหุ้น เป็นการสร้างความมั่งคั่ง และการลงทุนในกองทุนอิงดัชนีหุ้นกู้ เป็นการปกป้องความมั่งคั่ง นั่นเอง
การลงทุนในกองทุนอิงดัชนีหุ้น เป็นการสร้างความมั่งคั่ง และการลงทุนในกองทุนอิงดัชนีหุ้นกู้ เป็นการปกป้องความมั่งคั่ง นั่นเอง
ดังนั้น ในช่วงที่เราอายุยังน้อยอยู่ ยังมีแรงทำงานหาเงิน เราก็ควรจะลงทุนในกองทุนอิงดัชนีหุ้น ในอัตราส่วนที่สูง เพื่อสะสมความมั่งคั่ง ให้เพิ่มพูนขึ้น
แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นแล้ว และอยู่ในวัยที่ไม่สามารถทำงานหนักมากได้อีกต่อไป เราก็ควรเน้น ลงทุนในกองทุนอิงดัชนีหุ้นกู้ ที่มีความผันผวนน้อยกว่าแทน เพื่อเป็นการปกป้องความมั่งคั่งของเรา
ทีนี้ เราลองมาดูตัวอย่างของผลตอบแทน จากการลงทุนโดยใช้กลยุทธ์นี้กันบ้าง
ตัวอย่างต่อไปนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 กรณี
คือ คุณ A, คุณ B, และคุณ C
คือ คุณ A, คุณ B, และคุณ C
โดยทั้ง 3 คน มีอายุเท่ากัน คือ 31 ปี โดยมีรายได้จากเงินเดือน เดือนละ 30,000 บาท และมีการปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นปีละ 5%
นอกจากนี้ ทั้ง 3 คนจะลงทุนแบบถัวเฉลี่ยในทุกเดือน หรือก็คือวิธี Dollar Cost Average หรือ DCA
-คุณ A เลือกหักจากเงินเดือน เดือนละ 10% เพื่อนำมาลงทุน
หมายความว่า ในปีแรกที่เริ่มลงทุน
คุณ A จะลงทุนใน VTI เดือนละ 2,070 บาท
และลงทุนใน BND เดือนละ 930 บาท
คุณ A จะลงทุนใน VTI เดือนละ 2,070 บาท
และลงทุนใน BND เดือนละ 930 บาท
ถ้าคุณ A มีการปรับพอร์ต เพื่อรักษาอัตราส่วนการลงทุนปีละครั้ง ตามกลยุทธ์ที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว
เมื่อคุณ A อายุ 61 ปี
คุณ A จะได้รับผลตอบแทนทั้งหมด 6,392,843 บาท
คุณ A จะได้รับผลตอบแทนทั้งหมด 6,392,843 บาท
แบ่งเป็น
ผลตอบแทนที่ได้จาก VTI เท่ากับ 2,493,209 บาท
ผลตอบแทนที่ได้จาก BND เท่ากับ 3,899,634 บาท
ผลตอบแทนที่ได้จาก VTI เท่ากับ 2,493,209 บาท
ผลตอบแทนที่ได้จาก BND เท่ากับ 3,899,634 บาท
-คุณ B เลือกหักจากเงินเดือน เดือนละ 20% เพื่อนำมาลงทุน
เมื่อคุณ B อายุ 61 ปี
คุณ B จะได้รับผลตอบแทนทั้งหมด 12,785,686 บาท
คุณ B จะได้รับผลตอบแทนทั้งหมด 12,785,686 บาท
แบ่งเป็น
ผลตอบแทนที่ได้จาก VTI เท่ากับ 4,986,418 บาท
ผลตอบแทนที่ได้จาก BND เท่ากับ 7,799,268 บาท
ผลตอบแทนที่ได้จาก VTI เท่ากับ 4,986,418 บาท
ผลตอบแทนที่ได้จาก BND เท่ากับ 7,799,268 บาท
-คุณ C เลือกหักจากเงินเดือน เดือนละ 30% เพื่อนำมาลงทุน
เมื่อคุณ C อายุ 61 ปี
คุณ C จะได้รับผลตอบแทนทั้งหมด 19,178,529 บาท
คุณ C จะได้รับผลตอบแทนทั้งหมด 19,178,529 บาท
แบ่งเป็น
ผลตอบแทนที่ได้จาก VTI เท่ากับ 7,479,626 บาท
ผลตอบแทนที่ได้จาก BND เท่ากับ 11,698,903 บาท
ผลตอบแทนที่ได้จาก VTI เท่ากับ 7,479,626 บาท
ผลตอบแทนที่ได้จาก BND เท่ากับ 11,698,903 บาท
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็คงเห็นแล้วว่า ผลตอบแทนที่ได้จากสูตรการลงทุนของคุณ Bogle ก็สามารถช่วยสร้าง และรักษาความมั่งคั่งให้เราได้ค่อนข้างสูง
ยิ่งถ้าเราสามารถออมเงินต่อเดือนได้มากขึ้นเท่าไร
ในวันที่เราเกษียณจากการทำงาน ก็มีโอกาสที่เราจะเหลือเงินไว้ใช้หลังเกษียณมากขึ้นเท่านั้น
ในวันที่เราเกษียณจากการทำงาน ก็มีโอกาสที่เราจะเหลือเงินไว้ใช้หลังเกษียณมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ ตัวอย่างข้างต้นยังเป็นการคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน จนถึงวันที่เราเกษียณอายุเท่านั้น
ดังนั้น ถ้าเรายังใช้กลยุทธ์การปรับพอร์ตของคุณ Bogle ต่อไป หลังจากที่เราเกษียณ เราก็จะยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทน จากเงินลงทุนของเราต่อไปได้อีก
และทั้งหมดนี้เอง ก็คือวิธีการลงทุนอันแสนเรียบง่าย
ที่คุณ Bogle ใช้ และแนะนำให้ใครต่อใครลองทำตาม
ที่คุณ Bogle ใช้ และแนะนำให้ใครต่อใครลองทำตาม
แต่ก็ต้องจำไว้ว่า การจะใช้สูตรการลงทุนนี้จนประสบความสำเร็จได้นั้น ก็ต้องแลกมากับการมีวินัยในการออม และลงทุนอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน..
References
-http://www.lazyportfolioetf.com/etf/vanguard-total-stock-market-vti/#:~:text=In%20the%20last%2030%20Years,granted%20a%201.51%25%20dividend%20yield.
-http://www.lazyportfolioetf.com/etf/vanguard-total-bond-market-bnd/#:~:text=In%20the%20last%2030%20Years,granted%20a%202.06%25%20dividend%20yield.
-หนังสือ The Bogle Effect: How John Bogle and Vanguard Turned Wall Street Inside Out and Saved Investors Trillions (2022) ของ Eric Balchunas
-หนังสือ The Little Book of Common Sense Investing: The Only Way to Guarantee Your Fair Share of Stock Market Returns (2007) ของ John C. Bogle
-หนังสือ Stay the Course: The Story of Vanguard and the Index Revolution (2018) ของ John C. Bogle
-หนังสือ Common Sense on Mutual Funds: New Imperatives for the Intelligent Investor (1999) ของ John C. Bogle
-หนังสือ The Simple Path to Wealth: Your road map to financial independence and a rich, free life (2016) ของ JL Collins
-หนังสือ The Psychology of Money: Timeless lessons on wealth, greed, and happiness (2020) ของ Morgan Housel
-https://www.bangkokbiznews.com/finance/1028769
-http://www.lazyportfolioetf.com/etf/vanguard-total-stock-market-vti/#:~:text=In%20the%20last%2030%20Years,granted%20a%201.51%25%20dividend%20yield.
-http://www.lazyportfolioetf.com/etf/vanguard-total-bond-market-bnd/#:~:text=In%20the%20last%2030%20Years,granted%20a%202.06%25%20dividend%20yield.
-หนังสือ The Bogle Effect: How John Bogle and Vanguard Turned Wall Street Inside Out and Saved Investors Trillions (2022) ของ Eric Balchunas
-หนังสือ The Little Book of Common Sense Investing: The Only Way to Guarantee Your Fair Share of Stock Market Returns (2007) ของ John C. Bogle
-หนังสือ Stay the Course: The Story of Vanguard and the Index Revolution (2018) ของ John C. Bogle
-หนังสือ Common Sense on Mutual Funds: New Imperatives for the Intelligent Investor (1999) ของ John C. Bogle
-หนังสือ The Simple Path to Wealth: Your road map to financial independence and a rich, free life (2016) ของ JL Collins
-หนังสือ The Psychology of Money: Timeless lessons on wealth, greed, and happiness (2020) ของ Morgan Housel
-https://www.bangkokbiznews.com/finance/1028769