
Elon Musk อาจเสียตำแหน่ง “คนรวยที่สุดในโลก” ไปตลอดกาล
19 ม.ค. 2023
Elon Musk อาจเสียตำแหน่ง “คนรวยที่สุดในโลก” ไปตลอดกาล - BillionMoney
จากภาวะตลาดหุ้นซบเซาทั่วโลกในช่วงปีที่ผ่านมา
ได้ส่งผลให้ Elon Musk เจ้าพ่อรถไฟฟ้าแห่ง Tesla สูญเสียความมั่งคั่งรวมกว่า 6.5 ล้านล้านบาท
ได้ส่งผลให้ Elon Musk เจ้าพ่อรถไฟฟ้าแห่ง Tesla สูญเสียความมั่งคั่งรวมกว่า 6.5 ล้านล้านบาท
ทำให้เขาเป็นบุคคลแรกในประวัติศาสตร์โลกที่สูญเสีย
ความมั่งคั่งไปมากขนาดนี้ ในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ปีเดียว
ความมั่งคั่งไปมากขนาดนี้ ในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ปีเดียว
อีกทั้งยังต้องสูญเสียตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ให้แก่ Bernard Arnault เจ้าของ LVMH
และในปี 2022 ที่ผ่านมานี้ ก็อาจจะเป็นปีสุดท้าย ที่เราจะได้เห็น Elon Musk ในตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
เพราะสำนักข่าว Bloomberg ได้เขียนบทวิเคราะห์ว่า Elon Musk อาจจะไม่สามารถกลับมาเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก ได้อีกต่อไป
แล้วปัจจัยอะไร ที่จะทำให้ Elon Musk อาจจะไม่ได้กลับมาเป็นคนรวยที่สุดในโลกอีกต่อไปแล้ว
BillionMoney จะมาสรุปให้ฟัง แบบง่าย ๆ
BillionMoney จะมาสรุปให้ฟัง แบบง่าย ๆ
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2009 หลังจากที่ Elon Musk ได้รับตำแหน่ง CEO ได้เพียงปีเดียว ทางบริษัทได้ให้โบนัสแก่เขา ในรูปแบบของสิทธิการซื้อหุ้น หรือที่เรียกว่า Stock Option ซึ่งมีกำหนดอายุการใช้สิทธิ ถึงปี 2016
โดย Option ดังกล่าวอนุญาตให้ Elon Musk เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 10,067,960 หุ้น ที่ราคา 2.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
ภายหลังจากนั้น ราคาหุ้น Tesla ก็ได้ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยช่วงปี 2014 ถึงปี 2016 ราคาหุ้น Tesla ก็ได้ปรับตัวขึ้นสูง ไปอยู่ที่ระหว่าง 12-19 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น จากเดิมที่ในปี 2010 ราคาหุ้นอยู่ที่ประมาณ 1-2 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น เท่านั้น
ดังนั้นหาก Elon Musk ใช้สิทธิ Option เข้าซื้อหุ้น Tesla นี้ เขาก็จะสามารถทำกำไรได้ไม่ต่ำกว่า 6 เด้ง เลยทีเดียว
ดังนั้นหาก Elon Musk ใช้สิทธิ Option เข้าซื้อหุ้น Tesla นี้ เขาก็จะสามารถทำกำไรได้ไม่ต่ำกว่า 6 เด้ง เลยทีเดียว
ต่อมาในปี 2012 และปี 2018 Elon Musk ก็ได้รับสิทธิในการซื้อหุ้นอีกครั้ง เป็นจำนวนหลายร้อยล้านหุ้น เพื่อเป็นแรงจูงใจในการบริหาร Tesla
ทำให้ในช่วงปลายปี 2021 Elon Musk ถือหุ้น Tesla
คิดเป็น 21.2% ของจำนวนหุ้น Tesla ทั้งหมด
คิดเป็น 21.2% ของจำนวนหุ้น Tesla ทั้งหมด
และในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง ที่ราคาหุ้น Tesla ได้พุ่งขึ้นสูงที่สุดไปแตะที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
ส่งผลให้ Elon Musk กลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก ด้วยการมีทรัพย์สิน คิดเป็นมูลค่ารวม 11 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ Elon Musk ยังได้นำหุ้น Tesla ของเขา มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ เพื่อนำเงินที่ได้ ไปใช้ซื้อกิจการอื่น อีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมาที่ Elon Musk ได้ประกาศเข้าซื้อ Twitter เป็นต้น
ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อกิจการ Twitter ที่สูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท ทำให้ Elon Musk ต้องใช้หุ้น Tesla ที่เขามีอยู่
มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อกู้เงินจำนวน 411,806 ล้านบาท มาซื้อ Twitter
มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อกู้เงินจำนวน 411,806 ล้านบาท มาซื้อ Twitter
โดยปกติแล้ว เราจะสามารถกู้เงินได้น้อยกว่า มูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้มูลค่าของหุ้น Tesla ที่ Elon Musk นำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้เงินนั้น มีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านบาท
พูดง่าย ๆ ก็คือ Elon Musk ต้องนำสินทรัพย์มูลค่า 100 บาท มาค้ำประกัน เพื่อที่จะกู้เงินได้ 20 บาท
ดังนั้น มูลค่าหนี้ของ Elon Musk จึงคิดเป็น 20% ของหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งเราเรียกอัตราส่วนนี้ว่า Loan to Value Ratio หรือ LTV นั่นเอง
ทั้งนี้ เอกสารทางการเงินล่าสุดของ Tesla เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2022 พบว่า Elon Musk ได้ใช้หุ้นกว่า 52% ที่เขาถือทั้งหมด ไปค้ำประกันเงินกู้ที่นำมาซื้อ Twitter รวมถึงเงินกู้อื่น ๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม การนำหุ้นมาค้ำประกัน ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน โดยเมื่อมูลค่าหุ้นลดลงถึงจุดที่ถูกกำหนดไว้โดยผู้ให้กู้ Elon Musk ก็ยิ่งต้องหาหุ้นมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้มากยิ่งขึ้น เพื่อรักษามูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้
ในกรณีของเงินกู้ ที่นำมาซื้อ Twitter นั้น หากมูลค่าหุ้นที่ค้ำประกันลดลง จนถึงจุดที่มูลค่าเงินกู้คิดเป็น 35% ของมูลค่าหุ้น Tesla ที่นำมาค้ำประกันไว้
Elon Musk จะต้องหาหุ้นมาค้ำประกันเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็ต้องขายหุ้นออกมา เพื่อนำเงินมาลดหนี้ ซึ่งกระบวนการนี้ เราเรียกว่า Margin Call
ทั้งนี้ ถ้าเราไปย้อนดูราคาหุ้น Tesla ในช่วงที่ผ่านมา ก็จะพบว่า Elon Musk ก็น่าจะโดนเรียกหลักประกันเพิ่มเติม ไปแล้ว ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2022
ซึ่งก็สอดคล้องกับพฤติกรรมการขายหุ้น Tesla ออกไปหลายครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 750,000 ล้านบาท
เมื่อปี 2022 หลังจากที่ประกาศว่าจะซื้อกิจการ Twitter
เมื่อปี 2022 หลังจากที่ประกาศว่าจะซื้อกิจการ Twitter
ดังนั้นแล้ว หากราคาหุ้น Tesla ยังลดลงไปเรื่อย ๆ
Elon Musk ก็อาจจะยิ่งต้องขายหุ้นของตัวเอง
เพื่อนำเงินไปลดมูลค่าหนี้ มากยิ่งขึ้น
Elon Musk ก็อาจจะยิ่งต้องขายหุ้นของตัวเอง
เพื่อนำเงินไปลดมูลค่าหนี้ มากยิ่งขึ้น
ซึ่งนั่นก็จะเป็นปัจจัยซ้ำเติมให้ราคาหุ้น Tesla
ปรับตัวลดลงหนักกว่าเดิม จนกลายเป็นกับดักของการใช้ Margin ของผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง Elon Musk
ปรับตัวลดลงหนักกว่าเดิม จนกลายเป็นกับดักของการใช้ Margin ของผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง Elon Musk
แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้ Elon Musk รอดพ้นจากกับดัก Margin ไปได้ คือการนำบริษัท SpaceX เข้าตลาดหุ้น เพื่อปลดล็อกมูลค่าบริษัท และเป็นการหาหลักทรัพย์ใหม่ มาช่วยค้ำประกันเงินกู้
ซึ่ง SpaceX ได้ผ่านการระดมทุนรอบล่าสุด กับนักลงทุนรายใหญ่อย่าง Alphabet บริษัทแม่ของ Google และ Fidelity Investments ไปแล้ว โดยมีการประเมิน ให้บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 4.5 ล้านล้านบาท
จึงเป็นที่น่าติดตามกันต่อไปว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่หุ้น Tesla ร่วงลงอย่างหนักเช่นนี้ Elon Musk จะทำอย่างไรต่อไป เพื่อให้สามารถกลับขึ้นมา เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก ได้อีกครั้ง..
References:
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1318605/000119312510068933/dex103a.htm
-https://www.bloomberg.com/graphics/2023-elon-musk-might-never-be-worlds-richest-person-again/?srnd=bigtake
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1318605/000119312518035345/d524719ddef14a.htm#toc524719_4
-https://ir.tesla.com/_flysystem/s3/sec/000156459022016871/tsla-10ka_20211231-gen.pdf
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1318605/000119312510068933/dex103a.htm
-https://www.bloomberg.com/graphics/2023-elon-musk-might-never-be-worlds-richest-person-again/?srnd=bigtake
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1318605/000119312518035345/d524719ddef14a.htm#toc524719_4
-https://ir.tesla.com/_flysystem/s3/sec/000156459022016871/tsla-10ka_20211231-gen.pdf