ทำไม โปะค่าบ้านเพิ่มนิดเดียว ประหยัดเงินได้ หลักแสน หลักล้าน

ทำไม โปะค่าบ้านเพิ่มนิดเดียว ประหยัดเงินได้ หลักแสน หลักล้าน

20 ก.ค. 2023
ทำไม โปะค่าบ้านเพิ่มนิดเดียว ประหยัดเงินได้ หลักแสน หลักล้าน | MONEY LAB เล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน
สำหรับหลาย ๆ คนที่กำลังกู้เงินซื้อบ้านอยู่นั้น ก็น่าจะเคยได้ยินถึงเทคนิคการผ่อนบ้าน ให้หมดเร็วขึ้น และประหยัดค่าดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านมากขึ้น
ด้วยการจ่ายเงินค่าบ้าน มากกว่าที่ธนาคารกำหนดให้ชำระตามปกติ หรือก็คือการ “โปะบ้าน” มาก่อน
ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เราโปะบ้านเพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนเล็กน้อยต่อเดือน จะช่วยให้เราประหยัดเงินค่าดอกเบี้ยได้มหาศาล
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราโปะบ้านเพิ่มเดือนละ 200 บาท
เราจะสามารถประหยัดค่าดอกเบี้ยบ้าน ที่ต้องจ่ายให้กับธนาคารไปได้ เป็นหลักแสนบาท
แล้วทำไมเงินที่เพิ่มมาแค่เดือนละ 200 บาท ถึงช่วยประหยัดค่าดอกเบี้ยบ้าน ได้มากขนาดนี้ ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอนให้เข้าใจ
นอกจากการทำรีไฟแนนซ์ หรือการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารใหม่ ที่ให้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าธนาคารเดิม
และการทำรีเทนชัน หรือการขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมโดยตรง
การโปะบ้าน ก็เป็นการช่วยลดภาระดอกเบี้ยได้อย่างมาก
ซึ่งถ้าใครยังมองไม่เห็นภาพ ถึงความสำคัญของการโปะบ้านเพิ่มขึ้น ในแต่ละเดือน ก็ลองมาดูตัวอย่างทั้ง 3 กรณีนี้กันก่อน
โดยตัวอย่างทั้ง 3 กรณีนี้ สมมติให้เรากู้ซื้อบ้านด้วยวงเงิน 3,000,000 บาท โดยมีระยะเวลาในการผ่อนทั้งหมด 30 ปี หรือ 360 งวด และดอกเบี้ย MRR เท่ากับ 6%
กรณีแรก ไม่โปะบ้านเพิ่ม ไม่ทำรีไฟแนนซ์ หรือรีเทนชัน
ในกรณีนี้ เราจะมีภาระการผ่อนต่อเดือน อยู่ที่ 17,987 บาท และถ้าเราผ่อนตามแผน เราจะต้องจ่ายเงินให้ธนาคารทั้งหมด 6,475,147 บาท
โดยแบ่งออกเป็น
เงินต้น 3,000,000 บาท
ดอกเบี้ย 3,475,147 บาท
จะเห็นได้ว่า ดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายตลอดสัญญา เป็นจำนวนเงินที่มากกว่าเงินต้นเสียอีก
กรณีที่สอง โปะบ้านเพิ่มเดือนละ 200 บาท โดยไม่ทำรีไฟแนนซ์ หรือรีเทนชัน
ถ้าเราโปะบ้านเพิ่มขึ้นอีก เดือนละ 200 บาท เราจะจ่ายเงินให้ธนาคารไปทั้งหมด 6,351,104 บาท และใช้เวลาผ่อนบ้านทั้งหมด 350 งวด
โดยแบ่งออกเป็น
เงินต้น 3,000,000 บาท
ดอกเบี้ย 3,351,104 บาท
หรือก็คือ เราจะจ่ายดอกเบี้ยลดลงไปมากถึง 124,043 บาท และจะผ่อนบ้านเสร็จเร็วขึ้นถึง 10 เดือน เมื่อเทียบกับกรณีที่เราไม่โปะบ้านเพิ่ม
กรณีที่สาม โปะบ้านเพิ่มเดือนละ 2,000 บาท โดยไม่ทำรีไฟแนนซ์ หรือรีเทนชัน
ถ้าเราโปะบ้านเพิ่มขึ้น เดือนละ 2,000 บาท
เราจะจ่ายเงินให้ธนาคารไปทั้งหมด 5,563,399 บาท และใช้เวลาผ่อนบ้านไป 279 งวด
โดยแบ่งออกเป็น
เงินต้น 3,000,000 บาท
ดอกเบี้ย 2,563,399 บาท
แปลว่า หากเราโปะบ้านเพิ่มขึ้น เดือนละ 2,000 บาท
เราจะมีภาระดอกเบี้ยลดลงไปถึง 911,748 บาท และผ่อนบ้านเสร็จเร็วขึ้นถึง 81 เดือน หรือเกือบ 7 ปีเลย เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่เราไม่ทำอะไรเลย
จากตัวอย่างนี้ เราก็น่าจะเห็นภาพกันแล้วว่า การโปะบ้านเพิ่มเพียงเล็กน้อยในแต่ละเดือน จะช่วยให้เราประหยัดได้แค่ไหน
แล้วทำไมการโปะบ้าน ด้วยเงินแม้จำนวนไม่มาก ถึงช่วยประหยัดค่าดอกเบี้ยบ้านได้เยอะขนาดนี้ ?
นั่นก็เพราะว่า บ้านนั้นจะคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก โดยธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแต่ละงวด โดยคำนวณจากเงินต้นที่เหลืออยู่
ซึ่งเวลาที่เราจ่ายค่าผ่อนบ้านให้ธนาคารไป จำนวนเงินนั้นก็จะถูกนำมาลดดอกเบี้ยก่อน แล้วจึงจะถูกนำไปลดเงินต้น
ดังนั้นในแต่ละเดือนที่เราโปะค่าบ้านเพิ่ม เงินส่วนนั้นก็จะไปช่วยตัดเงินต้น ทำให้ดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดในงวดถัดไปลดลง แม้เงินที่โปะไปจะมีจำนวนไม่มากก็ตาม
ทีนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า ระหว่างโปะค่าบ้านในแต่ละเดือน และการโปะค่าบ้านครั้งเดียวต่อปี ถ้าจำนวนเงินเท่ากัน การโปะแบบไหนดีกว่ากัน ?
ก็ต้องบอกว่า การโปะค่าบ้านทุกเดือน จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยบ้านได้มากกว่า แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไรนัก
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็น่าจะเข้าใจแล้วว่า การโปะเงินค่าบ้านเพียงเล็กน้อย ก็ช่วยประหยัดเงินให้เราได้อย่างมหาศาล
ซึ่งการโปะค่าบ้านตั้งแต่งวดแรก ๆ ในช่วงที่ธนาคารมักจะให้โปรดอกเบี้ย MRR ในอัตราที่ต่ำ ก็จะยิ่งลดดอกเบี้ยได้มากกว่าการไปโปะค่าบ้านในช่วงปีหลัง ๆ ที่เงินต้นลดลงไปมากแล้ว
และยิ่งเราใช้การรีไฟแนนซ์ หรือการรีเทนชัน มาช่วยด้วยแล้ว เราก็จะยิ่งสามารถผ่อนบ้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย..
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.